วันนี้จะมาพูดถึงปัญหาที่สองของปัญหาสีที่พบบ่อย คือ คราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ ซึ่งปัญหานี้มักเกิดขึ้นช่วงหน้าฝนหรือหลังจากช่วงหน้าฝนไม่นาน ถ้าจะให้อธิบายถึงปัญหานี้ว่าลักษณะเป็นอย่างไร ก็ให้สังเกตตามผนังที่ได้รับความชื้นบ่อยๆเช่นด้านที่โดนฝน, ผนังที่อยู่ติดกับต้นไม่ที่มีการรดน้ำประจำ เรามักจะพบรอยดำๆดูคล้ายๆรอยน้ำไหลร่วมกับปัญหาอื่นๆเช่นสีลอกร่อน ซึ่งรอยดำบนผนังนั้นก็คือคราบเชื้อรานั้นเอง สาเหตุส่วนใหญ่ของเชื้อราที่ผนังคือ 1. ผนังปูนมีความชื้น อาจเกิดจากไม่ได้ทิ้งปูนให้แห้งสนิทแล้วทาสีทับ หรือ ผนังปูนมีด้านที่เปลือยที่สัมผัสความชื้นบ่อยทำให้ผนังปูนมีความชื้น 2. ฟิล์มสีที่ทาผนังไม่ทนเชื้อราเพราะสีTOA มีผสมสารป้องกันเชื้อราลงในสีทาบ้านคุณภาพปานกลางขึ้นไป ดังนั้นถ้าใช้สีเกรดไม่สูงพออาจจะพบปัญหานี้มาก
การแก้ปัญหาคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำขึ้นผนังมีขั้นตอนดังนี้
- ขัดล้างทำความสะอาดคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำออกด้วยแปรงพลาสติก หรือถ้าไม่ต้องการออกแรงมากก็สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราทาบริเวณที่มีเชื้อราแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแล้วทิ้งผนังให้แห้งสนิทประมาณ 5 - 7 วันเพื่อตรวงสอบคราบฝังลึกถ้ายังมีคราบให้ทำความสะอาดตามขั้นตอนเดิมซ้ำอีกครั้ง
- ทาหรือกลิ้งน้ำยา TOA 113 Microkill บริเวณผนังที่เกิดคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ แล้วทิ้งให้แห้งเพื่อฆ่ารากเชื้อราที่ฝังอยู่ที่พื้นผิว
- ทาสีที่เหมาะสมกับผนังปูน เพื่อไม่ให้เห็นรอยการขัดคราบเชื้อรา และปกป้องไม่ให้เชื้อราขึ้นอีกครั้ง
TOA 113 Microkill |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น