พื้นผิวปูน
พื้นผิวปูนที่แช่น้ำเป็นเวลานานจะมีความชื้นสะสมค่อนข้างมากทำให้ใช้เวลานานในการระเหยออกไปซึ่งปกติต้องใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนจึงจะแห้งสนิทจึงจะทาสีทับได้ ซึ่งปกติช่างทาสีที่ต้องทาสีผนังที่ชื้นบ่อยๆจะมีเครื่องวัดความชื้นของผนังเป็นร้อยละซึ่งปกติต้องไม่เกินร้อยละ14 แต่ถ้าอยากตรวจสอบง่ายๆที่บ้านสามารถทำได้โดยเอาพลาสติกใสขนาด 45 x 45 ซม.แปะไว้กับผนังที่ทำความสะอาดแล้วโดยใช้เทปกาวติดขอบทั้ง 4 ด้านให้สนิทไม่ให้มีจุดระบายอากาศได้แล้วทิ้งข้ามคืนถ้ามีหยดน้ำคายออกมาจากผนังแสดงว่ายังไม่แห้งสนิทยังทาสีไม่ได้
1.ผนังขึ้นรา คราบตะไคร่
วิธีการแก้ปัญหาให้ทำเหมือนที่ได้เคยเสนอให้อ่านกันใน http://smart-paint.blogspot.com/2011/09/blog-post_04.html แต่มีสิ่งที่ต้องดูเพิ่มเติมคือ ดูคราบเกลือบริเวณพื้นผิวที่จมอยู่ใต้น้ำเวลาน้ำท่วม ซึ่งคราบเกลือเกิดจากความชื้นได้ละลายเกลือในปูนออกมา ซึ่งถ้ามีคราบเกลือให้ทำการล้างคราบเกลือให้หมดแล้วทิ้งผนังให้แห้ง 5 – 7 วันก่อนจะมีการเตรียมพื้นผิวหรือทาสีต่อ ซึ่งรองพื้นแนะนำให้ใช้ TOA Quick Primer เพราะทนต่อความชื้นของผนังมากกว่ารองพื้นรุ่นอื่น
2.สีโป่งพอง ลอกล่อน จากความชื้นสูง
แก้ปัญหาให้ทำเหมือนที่ได้เคยเสนอให้อ่านกันใน http://smart-paint.blogspot.com/2011/09/blog-post_07.html แต่มีสิ่งที่ต้องดูเพิ่มเติมคือ ดูคราบเกลือเช่นกัน
3.ผนังแตกร้าว
แก้ปัญหาให้ทำเหมือนที่ได้เคยเสนอให้อ่านกันใน http://smart-paint.blogspot.com/2011/09/blog-post_01.html แต่มีสิ่งที่ต้องดูเพิ่มเติมคือ ดูคราบเกลือเช่นกัน
ซึ่งสีที่แนะนำสำหรับปัญหานี้คือ TOA 7 in 1 เพราะสามารถปกปิดรอยแตกได้เพราะเนื้อสีมีความยืดหยุ่น
พื้นผิวไม้
1.ผนังไม้
ผนังไม้ที่แช่น้ำนานๆอาจทำให้เกิดการบวมและบิดตัวของไม้ได้ทำให้มีบางส่วนผุพังได้ซึ่งให้เปลี่ยนส่วนที่ผุพังเป็นไม้ใหม่ ส่วนที่บิดตัวผิดรูปให้ทำให้เข้ารูปเดิมการทำงานสี ซึ่งการซ่อมแซมมีขั้นตอนดังนี้
- ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็งให้ตากแดดประมาณ 14 – 21 วัน
- ถ้าเป็นไม้เนื้ออ่อนให้ตากแดดประมาณ 7 – 10 วัน
- ขัดฟิล์มสีเดิมออกให้หมดจนถึงเนื้อไม้ด้วยกระดาษทรายขัดแห้ง
- กรณีมีเชื้อราหรือตะไคร่น้ำให้ล้างให้สะอาดด้วยน้ำแล้วทาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา TOA 113 Microkill
- ทำความสะอาดฝุ่น ผงสีและคราบไขออกให้หมด
- หลังจากนั้นก็สามารถทาสีได้ตามขั้นตอนปกติ
2.เฟอร์นิเจอร์ไม้
ในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์ที่ยังมีสภาพดีอยู่ให้ซ่อมแซมให้เข้ารูปเดิมก่อนแล้วเตรียมพื้นผิวก่อนทำงานสีโดยเอาไปตากแดดจัดๆอย่างน้อย 2 – 3 วันแล้วขัดฟิล์มสีเดิมด้วยกระดาษทรายขัดแห้ง และทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดแล้วจึงสามารถทาสีตามปกติได้และ กรณีมีเชื้อราหรือตะไคร่น้ำให้ล้างให้สะอาดด้วยน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อรา TOA 113 Microkill ก่อนทาสี
3.พื้นไม้ปาร์เก้
เนื่องจากพื้นไม้ปาร์เก้อยู่ได้ด้วยกาวที่ใช้ในการติดตั้งทำให้เมื่อแช่น้ำนานมากกว่า 5 – 7 วันจะทำให้พื้นไม้บวมพอง และกาวหลุดล่อนออกจากพื้นบ้านทำให้ต้องซ่อมแซมดังนี้
- ถ้าพื้นไม้ยังไม่หลุดล่อนแต่ผิวหน้าเสียหายให้ทำความสะอาดแล้วทิ้งให้แห้ง 7 – 10 วันโดยเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทแล้วจึงขัดฟิล์มสีเดิมด้วยกระดาษทรายขัดแห้งแล้วทำความสะอาดให้ไม่มีน้ำมันและคราบไขก่อนทาน้ำยาเคลือบพื้น
- ถ้าพื้นปาร์เก้ล่อนบวม ให้รื้อพื้นไม้ออกให้หมดแล้วเอาไปผึ่งลมโดยไม่ต้องตากแดดเพราะจะทำให้ไม้เปลี่ยนรูปจากความร้อนและเป็นการทำให้คอนกรีตใต้ปาร์เก้แห้งสนิทอีกด้วยเมื่อไม้ปาร์เก้และพื้นด้านล่างแห้งสนิทแล้วจึงติดปาร์เก้ด้วยกาวสำหรับงานไม้ปาร์เก้แล้วทิ้งไว้ให้กาวแห้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนทำการขัดไม้ให้เรียบจนถึงเนื้อไม้ปาร์เก้เดิมด้วยกระดาษทรายแล้วจึงลงน้ำยาเคลือบพื้น
- ถ้าปาร์เก้ยังชื้นอยู่อย่าเอาน้ำมันหรือแลคเกอร์หรือแว็กซ์ไปทาทับเพราะจะทำให้ความชื้นไม่ระเหยออกไป
4.พื้นไม้ภายนอก
การซ่อมแซมให้ทำเหมือนผนังไม้แต่อาจตากแดดจัดเพียง 2 – 3 วันก็พอ
5.กรอบวงกบ ประตู หน้าต่างไม้
ในส่วนวงกบ ประตู หน้าต่างไม้เมื่อน้ำท่วมถึงมักเกิดการบวมทำให้สีบนไม้ปริแตกและทำให้เกิดเชื้อราและเห็ดขึ้นง่ายอีกด้วย เราจะซ่อมแซมโดยการใช้กระดาษทรายขัดสีเดิมออกให้หมดแล้วทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดและทาสีทับลงไป
พื้นผิวเหล็ก
ปัญหาที่พบบ่อยหลังน้ำท่วมคือปัญหาสนิมซึ่งถ้าทิ้งไว้สนิมอาจกัดให้เหล็กผุกร่อนจนหักได้ วิธีซ่อมแซมที่ทางTOA เสนอคือให้ขัดเฉพาะสะเก็ดสนิมขรุมบนผิวเหล็กด้วยกระดาษทรายน้ำโดยไม่ต้องขัดสนิมออกทั้งหมดและทำความสะอาดพื้นผิวแล้วทาด้วยสีรองพื้นหยุดสนิมเช่น TOA Rust Tech 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้ง 8 ชั่วโมงแล้วทาสีน้ำมันทับอีก 2 เที่ยวโดยแต่ละเที่ยวทิ้งให้แห้ง 8 -10 ชั่วโมง
